แฟร้งค์เฟิร์ตเจ๋งไร้พ่ายข้ามปี! บุกทุบดุสเซลดอร์ฟ แซงห้างยาขึ้นที่ 5

ดุสเซลดอร์ฟ กลุ่มชั้น 11 คว้าชัยมาสองนัดติด ปัจจุบันบุกไปกระหน่ำถึงยังหน้าบ้าน ชาลเก้ 4-0 เกมนี้เปิดบ้านจัดการ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต กลุ่มชั้น 6 ที่ฟอร์มยอดเยี่ยมมากมายไม่แพ้กลุ่มใดมา 10 เกมติดทุกรายการแล้ว ซึ่งเกมท้ายที่สุดที่แพ้จะต้องย้อนไปเลกแรกช่วงปลายธันวาคมปีที่ผ่านมาที่เปิดบ้านพ่ายแพ้ให้ บาเยิร์น มิวนิค ส่วนแมตช์ปัจจุบัน "อินทรีแดงดำ" ลงเล่นในยูโรปาลีก รอบ 16 กลุ่มในที่สุด ครั้งแรก เสมอกับ อินเตอร์ มิลาน ในบ้านตนเอง 0-0

เปิดตัวมาได้ไม่ถึงสองนาที แฟนเจ้าถิ่นจำต้องได้เฮเสียเวลาเปล่า เมื่อ ดาวิด คอฟนาชกี้ เข้าไปซัดบอลซุกตูดตาข่าย แม้กระนั้นผู้ตัดสินเป่านกหวีดข้างหลังไลน์แมนยกธงขาวว่าลำแข้งชาวประเทศโปแลนด์อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า

นาที 20 คอฟนาชกี้ มีความรู้สึกเจ็บกระทั่งจะต้องออกมาจากสนาม ก่อนที่จะ ฟรีดเฮล์ม ฟุงเคิ่ล เทรนเนอร์ของเจ้าถิ่นจะสลับตัวคนแรกส่ง รูเวน เฮนนิ่งส์ ลงเล่นแทน

นาที 32 มัทธิอัส ซิมเมอร์มันน์ เรียกเสียงฮือฮาในสนามได้ไม่น้อยเมื่อตั้งอกตั้งใจครอสบอลไปหน้าปากประตูแต่ว่าบอลพุ่งไม่ถูกเหลี่ยมชนเสาแรกอย่างจัง

จังหวะเกมเกือบจะไม่มีจังหวะลุ้นแบบจะๆกันมากแค่ไหนครอบครองบอลเสมอกัน แล้วก็ได้โอกาสเสมอกัน

ด้านหลังเกม นาที 42 ช่องทางได้เสียวของอินทรีแดงดำเมื่อ ฟิลิป คอสติช แย่งบอลจาก นิโค่ กีเซลมันน์ หน้าปากประตูมาได้ก่อนที่จะม้วนตัวฉุดกระชากบอลขึ้นทางด้านซ้ายแล้วครึ่งหนึ่งยิงครึ่งหนึ่งผ่านด้วยซ้ายบอลพุ่งผ่านหน้ากรอบถากเสาสอง

จบครึ่งแรก ดุสเซลดอร์ฟ กับแฟร้งค์เฟิร์ต ยังทำอะไรกันมิได้ เท่ากันไป 0-0

กลับมาเล่นต่อในช่วงหลัง ได้ไม่ถึงสามนาที นาที 48 "อินทรีแดงดำ" ได้ประตูชิงขึ้นนำเจ้าถิ่นไปก่อน 1-0 บอลขึ้นด้านขวา ดา คอสต้า ชิ่งบอลแม้กระทั่ง โจนาธาน เด กุซมัน เพิ่มขึ้นมาถึงเส้นข้างหลังก่อนเปิดบอลโด่งไปเสาสองให้ กอนชาโล่ ขว้างเซียนเซีย กระแทกบอลผ่านมือมิชาเอล เรนซิง เข้าไป

นาที 62 เกิดเหตุการณ์เมื่อ ผู้ตัดสินเป่าให้จุดลูกโทษเจ้าถิ่นข้างหลัง เบนีโต้ รามัน ตวัดบอลเข้ากึ่งกลางไปโดนแขน คอสติช แต่ข้างหลัง ดร.เฟลิกซ์ บรีช เชิญดำได้รับสัญญาณจากห้องVAR ก่อนวิ่งไปดูภาพช้าข้างสนาม ท้ายที่สุดวินิจฉัยไม่ให้จุดลูกโทษ ทำให้สกอร์ยังเป็นแฟร้งค์เฟิร์ต ที่นำดุสเซลดอร์ฟอยู่ 1-0

นาที 67 กลุ่มเยี่ยมแทบได้ลูกลำดับที่สองเพิ่ม ข้างหลัง ลูก้า โยวิช หวดด้วยขวาสุดแรงเกิดบอลจะเข้ากรอบอยู่แล้วแต่เรนซิง โชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดผ่านคานจวนเจียน

นาที 76 ดุสเซลดอร์ฟ ชวดได้ลูกตีเสมอแบบน่าแค้นใจข้างหลังสองผู้เล่นสำรองอย่าง เคแนน คารามันครอสบอลมาเสาแรกให้ รูเวน เฮนนิ่งส์ ซัดเสาแรกไปติดเซฟ เควิน ทรัปป์

เกมทำท่าว่าจะจบเพียงแค่ลูกเดียว แม้กระนั้น "อินทรีแดงดำ" มาได้ประตูลำดับที่สองในช่วงต่อเวลาพิเศษเจ็บน.90+1 จากผู้เล่นสำรองอย่าง เซบาสเตียน ฮัลเลอร์

แล้วก็ต่อมานาที 90+3 กลุ่มเยี่ยมมาได้ประตูปิดกล่องจากฮัลเลอร์ คนเดิมที่รับบอลจาก คอสติช ก่อนแปเข้าไปโล่งๆ

ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่านกหวีดยาวจบการแข่งขัน ดุสเซลดอร์ฟ แพ้ ไอทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต 3-0 ขยับแซง เลเวอร์คูสังเวยขึ้นไปรั้งที่ 5 มี 43 คะแนน ส่วนดุสเซลดอร์ฟ ยังรั้งที่ 11มี 31 แต้มเหมือนเดิม

รายชื่อผู้เล่นที่ลงในสนาม

ดุสเซลดอร์ฟ (4-1-4-1) : มิชาเอล เรนซิง - มัทธิอัส ซิมเมอร์มันน์, มาร์ชิน คามินสกี้, คาน อายฮาน, นิโค่ กีเซลมันน์ - มาร์เซล โซบอตก้า - เบนีโต้ รามัน, อายเมนบาร์ค็อก, โอลิเวอร์ ฟิงค์, ดาวิด คอฟนาชกี้ - โดดี ลูเคบากีโอ

แฟร้งค์เฟิร์ต (3-1-4-2) : เควิน ทรัปป์ - มาร์ติน ฮินเทเรกเกอร์, มาโกโตะ ฮาเซเบะ, อัลมามี่ ตูเร่ - เกลซอนแฟร์นานเดส - ดานนี่ ดา คอสต้า, เซบาสเตียน โรเด้, โจนาธาน เด กุซมัน , ฟิลิป คอสติช - ลูก้า โยวิช, กอนชาโล่ ปาเซียนเซีย

ผู้ตัดสิน : ดร.เฟลิกซ์ บรีช